การตั้งค่า Switch ในบางเรื่องก็จะมีลักษณะเหมือนกับการตั้งค่าของ Router เช่น การตั้งค่า Hostname, enable password, enable secret, telnet หรือ ssh เป็นต้น
การตั้งค่า Hostname
สำหรับการตั้งค่า Hostname ของ Switch ในการทำงานจริง ควรตั้งชื่อของอุปกรณ์ Network ให้สื่อถึงรุ่น และตำแหน่งที่ตั้งของ Switch ด้วย ยกตัวอย่าง เช่น
SW29BKK-B1F1-1
SW = อุปกรณ์ Switch
29 = รุ่น 2960
BKK = ติดตั้งอยู่ที่ กรุงเทพฯ
B1 = อาคาร 1
F1 = ชั้นที่ 1
1 = อุปกรณ์ตัวที่ 1
การตั้งค่า Enable Password
การสร้าง password เพื่อป้องกันการใช้คำสั่ง Enable แล้วเข้าสู่ privileged mode นั้นก็เพื่อสร้างความปลอดภัยในการ Access เข้าอุปกรณ์ให้มากขึ้น คนที่รู้ Password เท่านั้นถึงจะเข้าสู่ privileged modeได้ อย่างไรก็ตามหากใช้ Enable password ที่ไม่มีการเข้ารหัสก็ยังไม่ปลอดภัย เราสามารถสร้าง password เพื่อป้องกันการ Enable เข้าสู่ privileged mode แบบเข้ารหัส(encryption)ด้วย Enable secret ได้อีกทางเลือกหนึ่ง
การตั้งค่า Telnet
ในกรณีที่เราต้องการ Remote เข้ามายังอุปกรณ์ Switch หรือ อาจจะต้องการตั้งค่า Switch จากระยะไกลๆที่สาย Console ไม่สามารถทำได้ เราก็สามารถตั้งค่าให้ Remote เข้ามาที่ Switch โดยใช้ Protocol Telnet ซึ่งจำเป็นต้องตั้งค่าให้ Switch ดังต่อไปนี้
การสร้าง Password ให้แก่ Line vty ก็เพื่อเพิ่มความปลอดภัยกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้การ telnet เพื่อเข้ามาตั้งค่าอุปกรณ์นั้นๆ รวมทั้งป้องกันคนอื่นเข้ามาตั้งค่าอุปกรณ์ผ่าน telnet อย่างไรก็ตามการ access เข้าไปที่ Switch ด้วยการ Telnet ถือว่าไม่มีความปลอดภัย ดังนั้นควรจะ access โดยการใช้ SSH ซึ่งจะมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะจะมีการเข้ารหัส หรือ encryption
การตั้งค่า SSH
Cisco IOS ที่รองรับการตั้งค่า SSH จะต้องเป็น IOS “k9” (crypto) IOS image ถ้าหากเราต้องการทราบว่า IOS เรารองรับการตั้งค่า SSH หรือไม่ก็อาจจะลองง่ายๆด้วยการลองตั้งค่า หรือ ลอง Show version เพื่อตรวจสอบ IOS ว่าเป็น “k9” (crypto) IOS หรือไม่
การตั้งค่า IP Address บน Layer 2 Switch
สำหรับ Layer 2 Switch แล้ว เราสามารถตั้งค่า IP Address บน Interface VLAN ได้ เพื่อใช้สำหรับการ Management ต่างๆ เช่น Telnet, SSH และเราสามารถตั้งค่า Gateway ให้กับ Switch ก็สามารถตั้งค่าได้ด้วยคำสั่ง "ip default-gateway" ยกตัวอย่างตามภาพด้านล่างนี้
Commenti