My Items

​

​

​

ก่อนหน้านี้เราได้เรียนรู้หลักการทำงานของ PAT และ Static PAT หรือ Forwarding Port พร้อมกับวิธีการ Config ไปบ้างแล้ว สำหรับการ NAT ในแบบสุดท้ายที่จะกล่าวถึงก็คือ Dynamic PAT ซึ่งมีความคล้ายกับ Dynamic NAT โดยที่ Dynamic NAT นั้นหาก IP Public ใน Pool ถูกใช้งานไปจนหมดแล้วแต่ยังมี User/Client ที่เหลืออยู่เพื่อที่จะใช้งาน เช่น Internet จะทำให้ User/Client ที่เหลืออยู่นั้นจะไม่สามารถใช้งานได้ ต้องรอให้มี IP Public ถูกคืนกลับเข้าสู่ Pool ก่อน แต่สำหรับ Dynamic PAT ก็ยังคงรูปแบบการมี IP Public อยู่ใน Pool ไว้ แต่ทุกๆ User/Client จะใช้งานได้พร้อมๆ กัน โดยที่ไม่ต้องรอให้มี IP Public ว่างอยู่ใน Pool ทั้งนี้ได้ใช้ TCP/UDP Port Number มาช่วยแยกแยะ จึงทำให้สามารถใช้งาน IP Public ซ้ำกันได้ ดังรูปตัวอย่างที่ได้แสดงด้านล่าง

Port Address Translation - PAT หรือ NAT Overload เป็นการ NAT อีกรูปแบบหนึ่งโดยใช้หมายเลข Port ที่อยู่ใน Layer 4 คือ TCP/UDP Port เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดัง Diagram ที่ได้แสดงด้านล่าง

ในบทความก่อนหน้านี้ได้กล่าวถึง Static NAT และการ Config Static NAT ต้องจับคู่ระหว่าง IP Private กับ IP Public เพื่อแปลงหรือ Translate IP ไปมาระหว่างกัน แบบเจาะจงหรือ Fixed เอาไว้ แต่สำหรับ Dynamic NAT นั้นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ NAT เช่น Router จะทำการ Translate ระหว่าง IP Public และ IP Private ไปมา ให้อัตโนมัติ โดยจะมองไปยังที่ Pool ของ IP Public ถ้าหากมี IP Public ที่เพียงพอก็จะสามารถใช้งานได้

​

​

​

​

​

​