หัวข้อนี้มาทำความรู้จักเกี่ยวกับ CCIE Enterprise Infrastructure LAB กันนะครับ ซึ่งจะมีหัวข้อย่อยๆที่จะมาเขียนถึงดังนี้
CCIE คืออะไร
หากต้องการสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB ต้องสอบผ่าน Certificate ตัวไหนมาก่อนบ้าง
ลักษณะของข้อสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB เป็นอย่างไร
ต้องได้คะแนนหรือผลการสอบเป็นอย่างไร ถึงจะได้ CCIE Enterprise Infrastructure
เราสามารถสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB ได้ที่ไหนบ้าง
1. CCIE คืออะไร
CCIE เป็น Certificate (ใบรับรอง) ระดับ Expert หรือ ระดับผู้เชี่ยวชาญของทาง CISCO ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันอยู่หลายๆ Track ตามภาพด้านล่างนี้ แต่บทความนี้จะขออธิบายเกี่ยวกับ CCIE Enterprise Infrastructure LAB นะครับ
สำหรับ CCIE Enterprise Infrastructure LAB นั้นจะเป็นการสอบภาคปฏิบัติ 8 ชั่วโมงเต็ม โดยข้อสอบจะประเมินทักษะของผู้สอบ ทั้งในด้านการวางแผน การออกแบบ การ operation หรือ อื่นๆ (plan, design, deploy, operate, and optimize dual stack solutions (IPv4 and IPv6) ) ในเครือข่ายขององกรค์ที่ซับซ้อน เรียกได้ว่าเอาเกือบทุกๆเทคโนโลยีของ Network ที่ใช้ในองค์กรมาออกเป็นข้อสอบให้เรานั่นเอง
โดยแบ่งเป็นหัวข้อใหญ่ๆและเปอร์เซ็นในการออกข้อสอบประมาณด้านล่างนี้
ดูรายละเอียดหัวข้อย่อยได้ตามไฟล์ pdf นี้
2. หากต้องการสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB ต้องสอบผ่าน Certificate ตัวไหนมาก่อนบ้าง
การที่จะสามารถสมัครสอบ หรือ Book LAB ได้นั้นจะต้องมีการสอบวิชา Implementing and Operating Cisco Enterprise Network Core Technologies (ENCOR 350-401) หรือที่หลายๆคนเรียกว่า CCNP ENCOR มาก่อนนั่นเอง
สำหรับวิชา CCNP ENCOR (ENCOR 350-401) นั้นทาง CISCO ไม่ได้มีข้อกำหนด หรือ มี Prerequisites อะไร คือ ไม่จำเป็นต้องสอบผ่านวิชาอะไรมาก่อนก็สามารถสอบได้ แต่ผู้สอบก็ควรมีความเข้าใจในหัวข้อการสอบอย่างดีก่อนสอบนะครับ และทาง CISCO เองก็มีข้อแนะนำเพิ่มเติมว่าหากจะสอบในระดับ CCIE แล้วควรมีประสบการณ์ทำงานทางด้าน Network มา 5-7 ปี เป็นอย่างน้อย
3.ลักษณะของข้อสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB เป็นอย่างไร
การสอบจะใช้เวลาทั้งหมด 8 ชั่วโมงนะครับ ซึ่งข้อสอบนั้นจะประกอบด้วย 2 Module ดังต่อไปนี้
Module 1: Design (3 ชั่วโมง)
Module 2: Deploy, Operate and Optimize (5 ชั่วโมง)
Module 1: Design (3 ชั่วโมง)
เป้าหมายของ Module นี้ CISCO ต้องการที่จะวัดความสามารถในการสร้าง วิเคราะห์ ตรวจสอบ และการออกแบบเครือข่าย ซึ่งเป็นสิ่งที่คนที่จะมี CCIE จำเป็นต้องรู้ เช่น เข้าใจความแตกต่างระหว่างเทคโนโลยี, เรื่อง Solution ต่างๆ, การ Service รวมถึงสามารถนำความต้องการของลูกค้ามาสร้าง Solution ได้ โดยรูปแบบของข้อสอบนี้จะอยู่ในรูปแบบของ web-based ประกอบด้วยข้อสอบที่มีลักษณะดังนี้
Drag-and-Drop - จะเป็นลักษณะใช้ Mouse คลิกค้างลากเพื่อจับคู่
Multiple-Choice-Single-Answer - มีคำถามและจะมี Resource มาให้ เป็น Diagram พร้อมทั้ง Configuration หรือ ให้เป็นข้อความต่างๆมา ข้อความจาก email และให้เลือกตอบ a, b, c, d หรือ อื่นๆ แต่ให้ตอบข้อเดียว
Multiple-Choice-Multiple-Answer- มีคำถามและจะมี Resource มาให้ เป็น Diagram พร้อมทั้ง Configuration มา หรือ เป็นข้อความมาตามที่อธิบายในข้อ2 และให้เลือกตอบ a, b, c, d หรือ อื่นๆ แต่ให้ตอบมากกว่า 1 ข้อ ในท้ายๆของโจทย์หรือคำถามจะมีแจ้งไว้ว่าให้เลือกตอบกี่ข้อ
อื่นๆ เช่น มีคำถามมาแล้วให้เลือกตอบ Yes หรือ No เป็นต้น
Module 2: Deploy, Operate and Optimize (5 ชั่วโมง)
สำหรับ Module นี้จะเป็นการ Configuration หรือ เป็นการทำ LAB แบบตั้งค่าลงไปบนอุปกรณ์นั่นเอง ซึ่งโจทย์จะมี 3 Section ดังนี้
Section 1 : Existing Network Review & Tuning
Section 2 : Implementing Proof of Concept SDX Branches
Section 3 : Making use of Programmability
สำหรับ Module นี้ก็จะมี Network Diagram มาให้ จะมี Diagram ที่เป็นภาพรวม และมี Diagram ที่เป็นย่อยๆออกไปอีก เช่น Network Diagram ในส่วนของเฉพาะ Headquarters, Internet SP, Data Center, IaaS, Branch, Service Provider เป็นต้น
Section 1 : Existing Network Review & Tuning
สำหรับ Section 1 ก็จะมี Section ย่อยๆลงไปอีก เช่น Section 1.1, 1.2, 1.3 ไปเรื่อยๆ ในแต่ละ Section ย่อยก็จะมีโจทย์คำสั่งให้เราทำการตั้งค่าต่างๆ สำหรับ Section 1 หัวข้อที่เราต้องตั้งค่าก็จะเป็นเรื่องเหล่านี้ เช่น VLAN, STP, EtherChanne,IP SLA, FHRP:VRRP, OSPFv2,OSPFv3,IPv6, BGP, MP-BGP,MPLS, DMVPN, Cisco Multicast เป็นต้น
Section 2 : Implementing Proof of Concept SDX Branches
สำหรับ Section 2 ก็จะมี Section ย่อยๆลงไปอีก เช่น Section 2.1, 2.2, 2.3 ไปเรื่อยๆ ในแต่ละ Section ย่อยก็จะมีโจทย์คำสั่งให้เราทำการตั้งค่าต่างๆเช่นเดียวกันกับ Section 1 แต่โจทย์จะมีคำสั่งให้เราตั้งค่าเกี่ยวกับหัวข้อดังต่อไปนี้ เช่น DNA Center, Cisco SD-Access, VN, Cisco SD-WAN, Mapping SDA VNs to SD-WAN VPNs, Route Leaking เป็นต้น
Section 3 : Making use of Programmability
สำหรับ Section 3 ก็จะมี Section ย่อยๆลงไปอีกเช่นกัน เช่น Section 3.1,3.2, 3.3 ไปเรื่อยๆ ในแต่ละ Section ย่อย และก็จะมีโจทย์คำสั่งให้เราทำการตั้งค่าต่างๆเช่นเดียวกันกับ Section 1 และ Section 2 แต่โจทย์จะมีคำสั่งให้เราตั้งค่าเกี่ยวกับหัวข้อดังต่อไปนี้ เช่น RESTCONF, NETCONF, Python, Automated Configuration Backup Script เป็นต้น
4.ต้องได้คะแนนหรือผลการสอบเป็นอย่างไร ถึงจะได้ CCIE Enterprise Infrastructure
ในแต่ละ Module นั้น จะมีทั้งระดับคะแนนขั้นต่ำ(Min score) และระดับคะแนนที่ผ่าน (Pass score)
ในการที่จะสอบผ่านนั้น จะต้องทำคะแนนให้สูงกว่าคะแนนรวมของ Pass score ทั้งสองโมดูลรวมกัน และคะแนนที่ได้ของในแต่ละ Module นั้นต้องสูงกว่าคะแนนขั้นต่ำ หรือ Min score ของในแต่ละ Module ด้วย เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น จะขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
สมมุติว่าคะแนนในแต่ละ Module คะแนนเต็มคือ 10 คะแนน และ Pass score คือ 7.5 คะแนน ส่วน Min score คือ 6.5 คะแนน (แสดงว่าผลรวมของ Pass score คือ 7.5+7.5 =15 คะแนน)
ผลสอบของนาย A คือ Module 1 = 9 คะแนน และ Module 2 = 8 คะแนน
ผลคือ นาย A ได้ผลรวม 17 คะแนน "สอบผ่านครับ"
ผลสอบของนาย B คือ Module 1 = 10 คะแนน และ Module 2 = 6 คะแนน
ผลคือ นาย B ได้ผลรวม 16 คะแนน "สอบตกครับ" เนื่องจาก Module 2 ได้คะแนนต่ำกว่า Min Score
ผลสอบของนาย C คือ Module 1 = 9 คะแนน และ Module 2 = 7 คะแนน
ผลคือ นาย C ได้ผลรวม 16 คะแนน "สอบผ่านครับ" เนื่องจากผลรวมทั้ง 2 Module มากกว่า 15 คะแนน และได้คะแนนไม่ได้ต่ำกว่า Min Score
5.เราสามารถสอบ CCIE Enterprise Infrastructure LAB ได้ที่ไหนบ้าง
การสอบ LAB นั้นจะต้องสอบที่ต่างประเทศนะครับ (บางสถานที่อาจจะปิดอยู่ตอนนี้ ต้องตรวจสอบจาก www.cisco.com เพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่เป็นปัจจุบันนะครับ) ก็จะมีสถานที่ Location อยู่หลายสถานที่เช่นกันตามรายละเอียดด้านล่างครับ แต่ที่คนไทยนิยมไปกันก็จะเป็น ญี่ปุ่น และ ฮ่องกง เป็นต้น
ในขั้นตอนของการจอง LAB นั้นก็จะมีสถานที่ให้เราเลือกว่าต้องการจะสอบที่ไหน แสดงตามตัวอย่างด้านล่าง
แหล่งข้อมูลและภาพจาก www.cisco.com
ขอจบบทความนี้ประมาณนี้นะครับ แล้วเจอกันบทความต่อๆไป บทความต่อไปจะมีการอธิบายลงรายละเอียดหัวข้อของ CCIE เพิ่มขึ้น เช่น เรื่องของค่าใช้จ่าย การเตรียมตัว การเตรียม LAB เป็นต้น
Comments