ก่อนอื่นๆขออนุญาตอธิบายเบื้องต้นว่าการรับส่งข้อมูลจะมีอยู่ 3 ประเภทที่เราพบเจอกันอยู่บ่อยๆในโลกของ Network นั่นก็คือ
Unicast
Broadcast
Multicast
การส่งข้อมูลแบบ Unicast นั้นจะมี 1 Source และ 1 Destination หรือพูดง่ายๆว่ามีผู้ส่งแค่ 1 และปลายทางผู้รับแค่ 1 เท่านั้น เช่น เราทำการ ping จาก Computer ของเราไปยัง IP 8.8.8.8 ก็ถือว่าเป็นการส่งข้อมูลแบบ Unicast
ส่วนการส่งข้อมูลแบบ Broadcast จะเป็นการส่งแบบ 1 Source ไปยังทุกๆ Destination ซึ่งถ้าหากเป็นการส่งข้อมูลแบบ Broadcast ในระดับ Layer2 เราจะเห็น Destination MAC Address เป็น FF:FF:FF:FF:FF:FF ส่วนในระดับ Layer 3 นั้นจะเป็น Destination IP ที่เป็น IP Broadcast ของ Subnet หรือ Network ของ IP แต่ละชุด
ส่วน Multicast นั้นเป็นการส่งข้อมูลแบบ 1 Source ไปยัง 1 กลุ่มผู้รับ(Group of Receivers) หรือเรียกว่ากลุ่มของ Destination ก็ได้ แล้วทำไมต้องมีการส่งข้อมูลหรือ Traffic ในลักษณะนี้ด้วย ใช้การส่งข้อมูลแบบ Unicast และ Broadcast ก็เพียงพอแล้วหรือเปล่า คำตอบเรื่องนี้เรามาอธิบายกันต่อเลยครับ
Unicast vs Broadcast vs Multicast
Unicast
ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการส่งข้อมูล Video ในระดับ High Definition โดยใช้การส่งในลักษณะ Unicast
จากตัวอย่าง สำหรับการส่ง Video HD 1 Stream ต้องใช้ Bandwidth 6 Mbps ถ้าหากเราใช้การส่ง Video HD แบบ Unicast ในการส่งไปยังแต่ละ Host ซึ่งมี 3 Hosts ตัว Host ที่เป็น Server ต้องส่ง streaming เท่ากับ 3x6Mbps = 18 Mbps ออกไปหา Host ที่ต้องการรับชม Video ในส่วนของ WAN Link ที่มีเพียง 10 Mbps ก็ไม่เพียงพอ และถ้ามี Host ที่ต้องการรับ Video มากกว่านี้ ก็จะมีปัญหาเรื่อง Bandwidth ไม่เพียงพอเกิดขึ้นแน่นอน ในส่วนของ Host ที่เป็น Server เองก็ต้องทำงานหนักเช่นกัน ดังนั้นการส่งข้อมูลในลักษณะนี้จึงไม่เหมาะที่จะใช้ในการส่งข้อมูลแบบ Unicast แน่นอน
Broadcast
ถ้าหาก Video ที่เป็น HD ถูกส่งในลักษณะ Broadcast จะทำให้ Host ที่เป็น Server ไม่จำเป็นต้องส่งหลายๆ Stream ก็จะช่วยลด load ของ Server ลง แต่การส่งในลักษณะ Broadcast Traffic แบบนี้ จะไม่สามารถส่งผ่าน Router ออกไปได้ เพราะโดยพฤติกรรมการทำงานของ Router จะไม่ส่งต่อ Broadcast Traffic ก็จะทำให้ Traffic ถูก Drop ไม่สามารถส่งต่อไปยังเครื่องรับอื่นๆได้
Multicast
การรับส่ง Traffic ในลักษณะนี้ ซึ่งมีข้อมูลในลักษณะเดียวกัน และผู้รับหลายๆเครื่อง ถ้าหากเราใช้การส่งข้อมูลแบบ Multicast ก็จะทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้มีประสิทธิภาพมาก ในส่วนของ Server ก็จะทำการส่งแค่ Stream เดียว และ Router กับ Switch ก็จะทำการ forward หรือ ส่ง Traffic ไปยัง Host ที่ต้องการรับข้อมูลเท่านั้น ในภาพตัวอย่าง Host4 ไม่ต้องการรับชม Video ตัว Router ก็จะไม่ส่ง Traffic ออกไปยัง Host 4 ซึ่งจะช่วยลดปริมาณ Traffic ในระบบ Network ลงได้มาก ในขณะที่ Host
ที่ต้องการรับ Traffic ก็ยังสามารถดู Video ได้เช่นกัน
เมื่อใช้ Unicast ในการรับส่งข้อมูล เราจะเห็นได้ว่าปริมาณ Traffic จะเยอะมากขึ้น เมื่อจำนวณ Client เพิ่มมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน การส่งข้อมูลแบบ Multicast ปริมาณ Traffic จะยังคงเท่าเดิม ถึงแม้ว่าจำนวณ Client จะเพิ่มมากขึ้นก็ตาม
บทความนี้ขอกล่าวเป็นพื้นฐานไว้ประมาณนี้นะครับ บทความอื่นๆต่อไป จะมาอธิบายกันต่อว่า การส่งข้อมูลแบบ Multicast นั้น แล้ว Router จะรู้ได้อย่างไร ว่ามี Host ไหนต้องการรับ Traffic แบบ Multicast หรือ ต้องการรับ Video ตามตัวอย่างบ้าง และ Host ไหนไม่ต้องการรับ Traffic แบบ Multicast ครับ